วัดสมุหประดิษฐ์
ข้อมูลทั่วไป
วัดสมุหประดิษฐ์ตามประวัติกล่าวว่า เจ้าพระยานิกรบดินทร์ มหินทรมหากัลยาณมิตร (โต) สมุหนายกในสมัยรัชกาลที่ 3 ต้นตระกูลกัลยาณมิตร ได้สร้างวัดนี้ขึ้นเพื่ออุทิศให้มารดาในปลายสมัยรัชกาลที่ 3 การก่อสร้างวัดได้ค้างมาจนถึงรัชกาลที่ 4 เมื่อสร้างเสร็จแล้วจึงได้ถวายให้เป็นพระอารามหลวง พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงพระราชทานนามว่า "วัดสมุหประดิษฐาราม" อันมีความหมายว่า วัดที่สมุหนายกเป็นผู้สร้าง พระอุโบสถมีหน้าบันที่ประดับปูนปั้นตราพระราชลัญจกรประจำแผ่นดินรัชกาลที่ 3 ส่วนด้านล่างประดับปูนปั้นตราพระราชสีห์ ซึ่งเป็นตราประจำตำแหน่งสมุหนายก วัดแห่งนี้มีการบูรณะอีกครั้งหนึ่งในสมัยรัชกาลที่ 6
ข้อมูลงานจิตรกรรมฝาผนัง
จิตรกรรมฝาผนังภายในพระอุโบสถวัดสมุหประดิษฐ์ เป็นงานศิลปะในช่วงสมัยรัชกาลที่ 4 ลักษณะฝีมือคล้ายงานช่างหลวง มีความละเอียดประณีต ปรากฏภาพบนพื้นที่ระหว่างช่องหน้าต่าง เขียนเรื่องหลวิชัย-คาวี พระสมุทรโฆษ และวัฒนธรรมประเพณีพื้นบ้าน
ลักษณะเด่นของจิตรกรรมฝาผนัง
จิตรกรรมฝาผนังภายในพระอุโบสถวัดสมุหประดิษฐ์ เป็นงานฝีมือช่างในช่วงสมัยรัชกาลที่ 4 ที่มีการสืบทอดวิธีการเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังแบบไทยประเพณีในช่วงเวลาก่อนหน้า ผสมผสานกับวิธีการเขียนภาพจิตรกรรมแบบตะวันตกที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงเวลานั้น มีการใช้โครงสีในกลุ่มสีเขียวคราม ลักษณะเด่นของจิตรกรรมแห่งนี้อยู่ที่การเลือกเนื้อเรื่องของวรรณกรรมพื้นบ้านเรื่องหลวิชัย-คาวีมาใช้เขียน ซึ่งแนวคิดในการนำวรรณกรรมมาเป็นแรงบันดาลใจในการเขียนภาพจิตรกรรมนั้นเป็นที่นิยมในสมัยรัชกาลที่ 4 ลงมา อาทิ จิตรกรรมภายในพระอุโบสถวัดโสมนัส กรุงเทพฯ เขียนเรื่องอิเหนา เป็นต้น นอกจากนี้ยังเขียนเรื่องวัฒนธรรมประเพณีพื้นบ้านด้วย จุดเด่นอีกประการหนึ่งคือมีการผสมผสานวัฒนธรรมแบบจีนเข้าไปด้วย อาทิ การเขียนภาพต้นไม้ดอกไม้อย่างจีน เป็นต้น